การเขียน content หรือ เรื่องราวลงสื่อ เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนทำธุรกิจในยุคนี้
แต่หลายท่านที่เคยคุยกันมักมีข้ออ้างว่า
“ไม่รู้จะเขียนอะไร แชร์อะไร ความรู้ยังน้อย” …..และ อีกสารพัด
น้ำมักจะถามกลับว่า จริงเหรอคะ?
การไม่แชร์ไม่เขียน
มันไม่ได้เป็นเพราะ เราไม่รู้ว่าจะเขียนหรือแชร์อะไร
แต่เพราะ เรากลัวว่า เราอาจจะดูไม่ดีในสายตาคนอื่น
(ก็เข้าใจได้นะ)
แต่เราเรียนรู้ได้นิ
ถามตัวเองอีกที ถึงเรื่องที่เราน่าจะเขียนได้ มีอะไรบ้าง 4 เรื่องต่อไปนี้
1.เรื่องที่เราต้องคุยกับ ลูกค้า คืออะไร
2.เรามีความเชี่ยวชาญอะไรที่คนอื่นไม่มีแล้วเค้าน่าจะได้ประโยชน์ถ้าเราแบ่งปัน
3.อะไรทำให้เรามีเพื่อน หรือ
4.อะไรง่ายๆ ที่เราก็เจอแล้วรู้สึกว่า … อ้อ! แบบนี้ก็มีด้วย
(ขนาดเรายัง ว้าว! แล้วจะไม่มีคนอื่นที่อาจจะยังไม่รู้แล้ว เค้าน่าจะได้ประโยชน์เหมือนเราเหรอ)
ทุกอย่างเริ่มจากการค่อยๆ ทำค่ะ
ฝึกทำก่อน เขียนและโพส ด้วยความสนุกของเรา เดี๋ยวคนอ่านเค้าจะมาเองแน่ๆ ค่ะ
ไม่เห็นต้องกลัวดูไม่ดี ถ้าเราไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อน
คือ ถ้ากลัวว่าสิ่งที่เขียนคนจะไม่ชอบ
ก็ถามตัวเองกลับอีกที สิ่งที่เราเขียนจะมีผลอะไรมั้ย
ถ้าไม่แต่ดูจะมีประโยชน์กับคนอีกกลุ่มก็เขียนไป
ย้อนกลับมาอีกที เรื่องการกลัวถูกวิจารณ์
ต้องทำใจก่อนนะ ว่าทุกสังคมโดย…เฉพาะคนไทยเนี่ย
คนวิจารณ์มักมีมากกว่าคนสร้างสรรค์ที่กล้านำเสนอ
คือคนส่วนใหญ่อยู่ในที่มืด พอมีคนกล้าเสนอตัวออกมาสู่แสงสว่างก็ย่อมเป็นเป้าโจมตีเป็นธรรมดา
ตัวอย่างใกล้ตัวสุดๆ
คือ น้ำนี่ละ ขยันเขียนบทความที่บอกแล้ว ว่ามันเป็น pop up thought
คือคิดไรได้ก็รีบเขียน (ไม่งั้นจะไม่ได้เขียน)
ผลคือ มีหลายคนที่วิจารณ์ว่า เขียนแค่ผิวๆ ไม่ได้ช่วยลงลึก อ่านแล้วไม่เข้าใจก็มี
อ้าว! ก็บอกแล้วว่ามันเป็นแนวที่ต้องการถ่ายทอดแค่ประสบการณ์และมุมมองให้คุณไปคิดต่อ
อีกเรื่องที่ต้องเข้าใจคือ ถึงน้ำจะเป็นโค้ชธุรกิจ มีเคสใหม่ๆ มาให้เรียนทุกวัน
(คือมีคนบอกว่า น่าจะรวมเคสไปเขียนหนังสือ)
แต่ว่า การเขียนหนังสือ มันต้องหาข้อมูล ข้อเท็จ เขียนแล้วมีการอ้างอิง
ซึ่งสิ่งที่น้ำรู้มาส่วนใหญ่เลย (99.99%) มันไม่ได้มีสิ่งอ้างอิงชัดเจน เพราะเป็นประสบการณ์ของเหล่านักธุรกิจที่มาเป็นโค้ชชี่
แล้วหลายเรื่องการเผยแพร่ออกไปก็ไม่ได้เป็นผลดี
อย่างที่บอกการโค้ชคือ การที่มีแต่น้ำและโค้ชชี่ที่เปิดใจคุยกันและทุกเรื่องมันควรเป็นความลับเพื่อให้การคุยกันเป็นไปอย่างสบายใจ น้ำเคยแค่เอาเรื่องจริงของโค้ชชี่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนกันมาเขียนแต่น้ำส่งไปให้เค้าดูก่อนนะ
ผลคือ เค้าไม่พอใจ ก็แน่ละ เราเขียนความจริงแง่ลบถึงความผิดพลาด
ก็เข้าใจเค้าก็เลยไม่ได้เอาบทความลงเว็บ แล้วมันก็เป็นบทเรียนให้น้ำด้วยในการเขียนครั้งต่อไป
ถึงน้ำจะไม่ได้พูดชื่อของโค้ชชี่ออกมาตรง แต่ถ้าเจ้าตัวมาอ่านเค้าก็รู้อยู่ดี
ขนาดน้ำเขียนเรื่องดี แต่พอเขียนชื่อเข้าไป ยังมีบางท่านกังวลอีกว่า เดี๋ยวเพื่อนเค้าจะคิดว่าเค้าไปเกี่ยวข้อง
ผลก็อย่างที่เห็น…..
ทุกบทความถ้ามีการให้เรียนรู้จากเคส น้ำจึงเขียนกลางๆ และให้คุณไปคิดต่อในแบบของคุณ มันจะได้ไม่มีถูกผิด
และไม่ได้พาดพิงใครให้เค้าเดือดร้อน
เล่าตัวอย่างมายืดยาว (เพราะอิน)
เช่นเคย ต้องการจะบอกว่า ทุกคนมีเรื่องที่ตัวเองเชี่ยวชาญกว่าคนอื่น มีเรื่องที่เป็นประโยชน์ที่หลายๆคนที่ยังไม่รู้
เริ่มเขียนเถอะค่ะ ถ่ายทอดสิ่งดีๆ ในตัวคุณออกมาให้โลกได้รับรู้ ไม่ต้องกังวลมากไป ตอนเริ่มต้นอย่าเพิ่งคาดหวังอะไร
“สนุกที่จะเขียนก่อนเดี๋ยวคนอ่านก็ตามมาเองค่ะ”
น้ำใส @ 18.8.16