การมองอะไรใกล้ๆ มันยาก…เมื่อผ่านช่วงเวลาที่ลำบาก …มองมุมใหม่

เช้าวันหยุดช่อง ThaiPBS มักจะมีภาพยนตร์ดีสร้างแรงบันดาลใจมาฉาย และวันนี้ก็เช่นกัน ชื่อเรื่อง Soul Surfer

ตอนเริ่มเรื่อง เป็นดนตรีคุ้นหู และ ภาพชายหาดคุ้นตา ใช่แล้ว ตัวหนังสือลอยขึ้นมาว่า เกาะฮาวาย คราวนี้ยิ่งนั่งดูจริงจังกว่าเดิม ภาพชายหาดขาวสะอาดตานั่นไม่เปลี่ยนไปเลย แม้หนังจะเก่า แม้ครั้งสุดท้ายที่น้ำได้เดินเล่นที่นั่นคือ ปี 2012 แม่ที่นั่งดูด้วยกันพูดแต่ว่า ชายหาดสะอาดจัง ไม่มีอะไรที่ดูแปลกปลอมเลย …อืม ก็ที่นั่นเค้าไม่ให้มีขายอาหาร และ ฝรั่งเค้าก็ไม่เอาอาหารไปทานริมหาดกันเลยน่ะสิ

เข้าเรื่องดีกว่า Soul Surfer คือเรื่องราวของนักกีฬาเซิฟ หรือ นักโต้คลื่น ที่เกิดและโตมากับครอบครัวริมหาดในฮาวายที่ทุกคนในครอบครัวรักการเล่นเซิรฟ ตัวเอกของเรื่องเบธานี แฮมมิลตัน (Bethany Hamilton) เป็นนักเซิฟที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่งของการแข่งขันประจำปีและเตรียมฝึกซ้อมต่อเพื่อเข้าสู่ระดับภูมิภาค

แต่แล้วช่วงระหว่างการฝึกซ้อมเธอถูกฉลามกัดแขนข้างซ้ายขาดไปตั้งแต่ต้นแขนเลย แน่นอนว่าหลังจากผ่านเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้การใช้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป แต่ความฝันของเธอกลับไม่เปลี่ยนแปลง เธอฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้เป็นนักเล่นเซิฟระดับภูมิภาค ในภาพยนตร์เธอไม่ได้ชนะจากการให้คะแนนของกรรมการ แต่เธอชนะใจผู้ชมและเป็นแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายคนให้ลุกขึ้นมาสู้ชีวิต

แก่นของเรื่องมาจากประโยคหนึ่งของอาจารย์ของตัวเอกที่เริ่มพูดตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง ด้วยการให้นักเรียนของเธอเล่นเกมส์ทายภาพ ผ่านจอLCD เป็นภาพถ่ายขยายเพื่อให้เห็นเพียงบางส่วนของภาพจริง ภาพแรกเป็นภาพที่ออกมาคล้ายหลอดไฟลายๆสีชมพูแดง ไม่มีนักเรียนคนไหนทายถูกว่าคืออะไรกันแน่ แล้วอาจารย์ก็ย่อขนาดภาพลงให้เห็นว่าภาพนั้นขยายมากจากส่วนของตาแมลงวัน อีกภาพเป็นภาพขยายของถั่ววอลนัท ซึ่งนักเรียนต่างตอบแนวเดียวกันว่าเป็นภาพสมอง

อาจารย์สรุปข้อคิดที่ได้จากการทายภาพว่า การที่เรามองอะไรใกล้ๆ เป็นสิ่งที่ยากมากที่จะเข้าใจ ถ้าเราต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากให้มองมุมใหม่ ซึ่งประโยคนี้เป็นประโยคที่เบธานีใช้ในการผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดของชีวิตเธอ

มองย้อนกลับมาตัวเราก็เช่นกัน ปีนี้ทั้งปีน้ำผ่านช่วงเวลายากลำบากมาหลายรอบ ยังไม่สำเร็จอย่างที่หวังไว้เมื่อสามปีก่อนตอนกลับมาจากฮาวายในปี 2013 แต่มองย้อนกลับไปแล้วทุกเหตุการณ์ ตอนที่เผชิญกับมันตรงนั้นน้ำรู้สึกว่าหนักมาก ทั้งถูกบอกเลิก ทั้งต้องเรียนโทซ้ำเพราะถูกให้พักการเรียน ถูกเปลี่ยนเงื่อนไขเรื่องดีลธุรกิจที่ตกลงกันหลายครั้ง ล้มเหลวกับหลายสิ่งที่ทุ่มเทไป แต่ทุกครั้ง น้ำจะมองสองสิ่ง คือ เหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่าในอดีตที่น้ำเคยผ่านมาได้ และ อนาคตเป้าหมายที่ฝันไว้ว่าจะเป็นเจ้าของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ น้ำไม่เคยยึดติดว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นมันจะคงอยู่ตลอดให้ท้อแท้เลย น้ำมองไปข้างหน้าเสมอ แม้ว่าในช่วงเวลาที่เผชิญกับมันจะต้องร้องไห้ซ้ำไปซ้ำมาราวกับน้ำตาไม่มีวันจะหมด แต่มันก็ต้องจบไป

เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่น้ำผ่านมาได้คือช่วงที่แม่ถูกรถชนและคู่กรณีไม่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่น้ำต้องสอบวิชาที่เรียนโท ช่วงเวลาที่ควรจะมีใครที่สุด กลับถูกทิ้งจากคนที่เราหวังพึ่งที่สุด คนที่มาแต่ละวันล้วนเป็นผู้หวังดีกับคำแนะนำที่ไม่ส่งผลดีเท่าไร แล้วน้ำก็ผ่านมันมาได้ เมื่อช่วงเวลานั้นผ่านไป น้ำได้ทุนไปเรียนที่ฮาวายและใช้ชีวิตต่างแดนเป็นนักเรียนทุนตามที่ฝันไว้ ทุกครั้งที่มีเรื่องเลวร้ายใดๆ น้ำจะนึกถึงช่วงเวลานั้น เวลาที่น้ำผ่านมาได้อย่างยากลำบากแต่เป็นความทรงจำที่ทำให้เข้มแข็ง ถ้าผ่านจุดนั้นมาได้ อะไรๆ น้ำก็ผ่านได้

วันนี้ก็เช่นกันการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยจินตนาการและความฝัน ต้องเจอบททดสอบอีกหลายเรื่อง มีทั้งผู้หวังดีกับคำแนะนำที่อาจใช่ไม่ได้ และคนที่พร้อมจะช่วยตลอดเส้นทางนี้ น้ำก็เชื่อว่าน้ำจะผ่านมันไปได้ และตอนจบของเรื่องนี้ น้ำจะได้พบสิ่งที่ฝันอีกครั้ง

ดาวน์โหลดฟรี
คู่มือการสร้างโมเดลธุรกิจ

ไอเดียต่อยอดธุรกิจ

Case Study

คอร์สประจำเดือน

ติดอาวุธธุรกิจด้วย BMC

เริ่มธุรกิจที่ใช่ ให้ไปรุ่ง

แชทสอบถาม

Scroll to Top